พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2020/21 แมตช์เดย์ 24 ประจำสัปดาห์ บรรดาทีมดังลงฟาดแข้งต่อเนื่อง และนี้คือ 5 เกมเด็ด ที่คัดมาให้แฟนบอลได้อัพเดทก่อนเกม
ลีกลูกหนังเมืองผู้ดี พรีเมียร์ลีก 2020/21 ยังคงความดุเดือดได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ท็อปโฟธ์ที่คะแนนสูสี บรรดาทีมอันดับต่อๆ ไปก็ทำแต้มไล่มาแบบสูสี ตอนนี้ทีมไหนพลาดมีร่วงอันดับแน่นอน ช่วงสุดสัปดาห์นี้ก็มีโปรแกรม พรีเมียร์ลีก ลงฟาดแข้งเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือใกล้เข้าสู้โค้งสุดท้ายในอีกไม่กี่เกมข้างหน้า และนี้คือ 5 เกมที่น่าในใจคัดมาให้เช็คกัน ประเดิมคู่หัวค่ำด้วยบิ๊กแมตช์ ลิเวอร์พูล vs เลสเตอร์ ซิตี้ ที่มีอันดับ 3 บนตารางเป็นเดิมพัน อีกคู่บิ๊กแมตช์กว่า เป็นการปะทะของสองยอดกุนซือ เสี่ยมูต้องยกพล สเปอร์ส ไปเยือนจ่าฝูง แมนฯ ซิตี้ ของเทรนเนอร์เป๊ป แม้ว่าคลับไก่จะฟอร์มตกไปแต่ในเกมสำคัญเชื่อว่าสู้มันส์แน่ๆ
ตามมาด้วย แมนฯ ยู ที่จะบุกไปเยือน ทีมหนีตายอย่าง เวสต์บรอมฯ ซึ่งจะประมาทไม่ได้เพราะผีแดงเคยโดยทีมบ๊วยแซงชนะมาแล้ว ทางด้าน อาร์เซนอล ก็มีศึกชิงท็อป 10 ต้องเจอกับตัวจี๊ด ลีดส์ ยูไนเต็ด ถ้าหวังไปอยู่ครึ่งแรกของตารางทีมปืนใหญ่ต้องชนะเท่านั้น และปิดท้ายกันด้วย เชลซี ที่ฟอร์มกำลังดีมีคิวเปิดบ้านปะทะ นิวคาสเซิล ที่ขาดความสถียรก็จริงแต่ผลงานบางเกมก็เล่นดีซะจนทีมใหญ่ต้องเกรง ก่อนจะไปมันส์กับเกมลูกหนัง มาอุ่นเครื่องด้วยการตามติดวิเคราะห์ก่อนเกมทั้ง 5 คู่เด็ดที่น่าสนใจประจำสัปดาห์ ได้ดังนี้
เลสเตอร์ ซิตี้ vs ลิเวอร์พูล
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2020 เวลา 19.30 น. ตามเวลาไทย
ทีมจิ้งจอกสยาม อันดับ 3 ของตาราง เจอกับ ลิเวอร์พูล อันดับ 4 นัดนี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งคนแพ้ต้องมีการอันดับร่วงเกิดขึ้น เลสเตอร์ฯ เพิ่งชนะ ไบรท์ตัน 1-0 ในบอลถ้วย ได้พัก 3 วันเสียเปรียบทีมเยือน ความพร้อมของทีมจิ้งจอกถือว่าดี ได้สองตัวหลัก โซยุนชู และ เอ็นดิดี้ กลับมาเป็นตัวเลือก เจมี่ วาร์ดี้ พร้อมลงสนามเกมสำคัญ ทางฝั่ง ลิเวอร์พูล ต้องยอมรับว่าสภาพทีมเป็นรองเจ้าบ้าน แข้งเดี้ยงหน้าเดิมยังไม่มีใครคัมแบ็ค แถมทาง ฟาบินโญ่ ก็เดี้ยงลงไม่ได้ ถึงเวลาต้องเลือกกองหลังตัวใหม่คนใดคนหนึ่งลงเล่น คาดว่าคงเป็น โอซาน คาบัค จะได้เดบิวส์ มีแววว่ากัปตันทีม จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กลับไปบัญชาการแดนกลางตำแหน่งที่ถนัด หลังจากแพ้มา 2 นัดรวด แต่ได้พักไปเกือบสัปดาห์เชื่อว่า คล็อปป์ จะกระตุกลูกทีมให้ความมั่นกลับคืนมาได้ ประกอบกับสถิติเหนือกว่าชัดเจน กุนซือ ร็อดเจอร์ส ไม่เคยพาทีมชนะหงส์แดงได้เลย ดังนั้น ลิเวอร์พูล มีโอกาสชนะมากกว่าในบิ๊กเกมนี้
อัตราต่อรอง: แต้มต่อ : 0.0-0.5 | ทีมเหย้า -0.95 | ทีมเยือน 0.86
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ vs ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ส
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2020 เวลา 00.30 น. ตามเวลาไทย
ทีมเรือใบสีฟ้าชนะติดต่อกันมา 15 นัดรวมทุกรายการ เกมล่าสุดในลีกบุกไปถล่ม ลิเวอร์พูล 4-1 ฟอร์มแรงยืนหนึ่งเป็นจ่าฝูงเต็งแชมป์เอามากๆ ความพร้อมของทีม รอเช็คฟิต รูเบน ดิอาส กับ เซคิโอ อเกวโร่ แต่ถึงลงไม่ได้ก็มีผลอะไร เพราะผู้เล่นที่เหลือพร้อมลุย ทางด้านทีมเยือน สเปอร์ส ของกุนซือ มูรินโญ่ หลังเสมอในลีกมาก 3 นัดติดก็กลับมาชนะได้ในเกมลีกล่าสุด อยู่อันดับที่ 8 ของตาราง เกมล่าสุดแพ้ เอฟเวอร์ตัน ใน เอฟเอ คัพ การขาดหายไปของ แฮรี่ เคน ส่งผลทีมอย่างชัดเจน เชื่อว่าเกมนี้ เคน พร้อมยืนหน้าล่าสกอร์นำทัพรวมกับ ซอน ฮึน บิ๊กแมตช์คู่นี้ถึงฟอร์มต่างแต่สู้กันมันส์แน่ ราคาบอลเปิดบ้านสูสีแต่อย่างไรก็ดีเจาบ้านมีความสม่ำเสมอมากๆ จึงมีความเห็นว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเป็นผู้ชนะ
อัตราต่อรอง: แต้มต่อ : 1.5 | ทีมเหย้า -0.99 | ทีมเยือน 0.90
เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน vs แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2020 เวลา 21.00 น. ตามเวลาไทย
เดอะ แบ็กกี้ ของกุนซือ แซม อัลลาร์ไดซ์ ฟอร์มย่ำแย่ต่อเนื่อง ไร้ชัยมา 5 นัดติด รั้งอยู่อันดับรองบ๊วย ความพร้อมของทีม ขาดแค่ เกรดี้ เดียงกาน่า ส่วนผู้ที่เหลือพร้อมประจำการนำทัพโดย เอนสลีย์ เมทแลนด์-ไนล์ส, คาร์ลาน แกรนท์, โรเบิร์ต สนอคกราสส์, คอนอร์ ทาวน์เซนด์ ส่วนทางผู้มาเยือนทีมปิศาจแดง ช่วงหลังในลีกแอบแผ่ว ชนะแค่ 2 จากการลงสนาม 5 นัด ความพร้อมของทีมถือว่าไม่น่าห่วง ขาดเพียง ฟิล โจนส์ กับ ปอล ป็อกบา รอเช็คฟิต อีริค ไบญี่ คาดว่าเกมนี้ต้องมาลุ้นกันว่า ดาบิด เด เคอา ที่เก๋าแต่พลาดหรือว่า ดีน เฮนเดอร์สัน ไม่เหนียวมากแต่ฝากความหวังพอได้ ใครจะได้ลงเฝ้าเสา ส่วนตัวหลักอย่าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด, มาร์คัส กรีนส์วูด, เอดินสัน คาวานี่ คงได้ลงตัวจริงถ้วนหน้า ผีแดงเคยโดยทีมบ๊วยคว่ำมาแล้ว คงจะไม่พลาดโดยรองบ๊วยบุกมาแย่งแต้ม ด้วยตัวนักเตะที่ศักยภาพดี คาดว่าเกมนี้คงเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จะคว้าสามแต้มติดมือกลับไปได้
อัตราต่อรอง: แต้มต่อ : 1.5 | ทีมเหย้า 0.94 | ทีมเยือน 0.97
อาร์เซนอล vs ลีดส์ ยูไนเต็ด
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2020 เวลา 23.30 น. ตามเวลาไทย
ขุนพล เดอะ กันเนอร์ส ทีมอันดับ 11 ของกุนซือ มิเกล อาร์เตตา แพ้มาต่อเนื่องสองเกมติด สภาพทีมยังไม่ดีเลย โธมัส ปาเตย์ และ เคียร์เรน เทียร์นี่ เดี้ยงลงไม่ได้ ส่วนสองตัวหลักเกมรับ ดาวิด หลุยส์ กับนายด่าน แบรนด์ เลโน ติดโทษแบน แต่ยังมีจุดแข็งที่เกมรุกพร้อมประจำการ นำทัพโดย อเล็กซองด์ ลากาแซตต์, บูกาโย่ ซาก้า, ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง และ เอมิล สมิธ โรว์ ส่วนทางทีมยูงทองรั้งอยู่ที่ 10 เก็บชัย 3 จาก 4 นัดหลังสุด ถือว่าเป็นทีมแกร่ง ทว่าตอนนี้เจอปัญหาแข้งรุมเร้า ดีเอโก้ ยอเรนเต้, โรดรีโก้ โมเรโน่, อดัม ฟอร์ชอว์, เอียน โปเวด้า และ โรบิน ค็อก หมดสิทธิ์ลงสนาม คงนำทัพโดย แคลวิน ฟิลลิปส์, ราฟินญ่า, แพทริก แบมฟอร์ด ฟอร์มการเล่นทั้งคู่สูสี แต่เกมนี้ปืนใหญ่ได้เปรียบจากการลงเล่นในบ้านและสภาพทีมพร้อมกว่า คาดว่า อาร์เซนอล จะชนะได้แบบสกอร์ไม่ขาด
อัตราต่อรอง: แต้มต่อ : 0.5 | ทีมเหย้า 0.91 | ทีมเยือน 0.99
เชลซี vs นิวคาสเซิล
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2020 เวลา 03.00 น. ตามเวลาไทย
ขุนพลสิงห์บลูของ โทมัส ทูเทิล ยังคงฟอร์มดีต่อเนื่อง เกมล่าสุดเฉือน บาร์นสลีย์ 1-0 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีม เอฟเอ คัพ ตั้งแต่ ทูเทิล คุมทีมมา 5 นัดรวมทุกรายการยังไร้พ่าย สภาพความพร้อมทีมถือว่าดี มีเพียง ติอาโก้ ซิลวา ที่ลงไม่ได้ ในรายของ ไคท์ ฮาทแวร์ รอเช็คฟิต พร้อมนำทัพโดย เมสัน เมาท์, ฮาคิม ซิเย็ค, ทิโม แวร์เนอร์เรื่องของความมั่นใจจัดเต็ม ยิ่งเกมนี้ได้เล่นในบ้านแกร่งแน่ๆ ส่วนทางทีมเยือน นิวคาสเซิล ฟอร์มยังขึ้นๆ ลงๆ เอาแน่เอานอนไม่ได้ นึกจะเล่นดีก็มีให้เห็น บางทีก็แย่แบบน่าใจหาย สภาพทีมไม่ดีเลยประสบปัญหาแข้งเดี้ยงพอสมควร คัลลั่ม วิลสัน, คาเบียร์ มานกีโย, ฟาบีอาน แชร์ ลงไม่ได้แน่นอน เกมล่าสุดชนะ เซาแธมป์ตัน 3-2 แต่ทาง เจฟฟ์ เฮนด์ริค โดนสองใบเหลือเป็นใบแดงและติดโทษแบนในเกมนี้ ไม่ว่าจะมองทางไหนทีมสิงห์ก็เหนือกว่า ดังนั้น เชลซี จะเป็นฝ่ายคว้าชัยในแมตช์นี้
อัตราต่อรอง: แต้มต่อ : 1.5-2.0 | ทีมเหย้า 0.91 | ทีมเยือน 0.95